บทความเรื่อง ป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน
บ้านวังน้ำมอก
บ้านวังน้ำมอก
ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
เป็นหนึ่งในชุมชนเข้มแข็งที่ได้รวมตัวกันลุกขึ้นมาพลิกฟื้นชีวิตป่า
สร้างความเข้าใจกับธรรมชาติและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ตลอดจนบทบาทในการสร้างรายได้
อาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน ทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างสามัคคี
มีความรักในชุมชนและมีวิถีชีวิตแบบ “พอเพียง เผื่อแผ่ พอดี และภูมิใจในสิ่งที่ตนมี”นับเป็นแหล่งเรียนรู้ความสัมพันธ์ของทรัพยากรธรรมชาติ
วัฒนธรรมและวิถีชุมชนที่ดีอีกแห่งในประเทศไทย
ชาวบ้านวังน้ำมอกมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่าธรรมชาติที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ภูผีปอบ” ตั้งอยู่สุดเขตหมู่บ้าน
มีอาณาเขตกว่า 3,500ไร่ เหตุเพราะมีป่าจึงเกิดมีอาชีพ
มีศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนอาหารพื้นบ้าน
แต่ด้วยการประกอบอาชีพในการตัดไม้เผาถ่านประกอบกับการให้สัมปทานป่าไม้ของภาครัฐในปีพ.ศ.
2507จึงทำให้ป่าอันอุดมสมบูรณ์ถูกทำลายลงไปมาก
กระทั่งต้องมีการปลูกทดแทนใหม่หมด
จนได้รับประกาศให้เป็นป่าชุมชนที่รักษาความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้ในปี พ.ศ.2537
ชาวบ้านในชุมชนเริ่มหันมาให้ความสำคัญในการรักษาป่าของตนมากขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าควรให้มีการอนุรักษ์ป่าไม้แถบลุ่มแม่น้ำโขงไว้ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวและเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับป่าและรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่ทำลาย
ในปัจจุบัน ชาวบ้านวังน้ำมอกมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่าชุมชนแห่งนี้
มีการจัดตั้งกลุ่มป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน คอยให้ความรู้และกระตุ้นให้คนในชุมชนคิดค้นพัฒนาในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สร้างความตระหนักถึงประโยชน์ในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ทำให้ชุมชนมีความสามัคคี
รู้จักช่วยเหลือเป็นหูเป็นตาดูแลป่า
มีการกำหนดกฏเกณฑ์ชัดเจนในระเบียบวิธีการใช้ประโยชน์จากป่า
โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน ทั้งการเก็บหน่อไม้ เก็บเห็ด หรือ เก็บรังผึ้ง
ซึ่งถือเป็นตลาดธรรมชาติที่ยั่งยืนของชุมชนและเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาววังน้ำมอก
นอกจากการใช้ชีวิตเคียงคู่ไปกับระบบนิเวศน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแล้ว
ชาวบ้านวังน้ำมอกยังสามารถต่อยอดและเชื่อมโยงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างรายได้ให้ชุมชน
เกิดเป็นวิถีชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน
มีการสนับสนุนในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยการจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานท่องเที่ยวและวัฒนธรรม”
เป็นที่ทำการหมู่บ้าน บริหารจัดการโดยชาวบ้านในหมู่บ้านเองทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านสำหรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่น
และให้ความรู้ในวิถีชีวิตอิงป่าธรรมชาติของบ้านน้ำมอก
นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบชนบทของบ้านน้ำมอก
เข้าพักผ่อนแบบเรียบง่าย สนุกสนาน ในที่พักของชาวบ้านในแบบโฮมสเตย์
ลิ้มรสอาหารชุมชนที่มีวัตถุดิบจากป่าชุมชน
ตลอดจนเดินศึกษาตามเส้นทางท่องเที่ยวป่าชุมชน ชื่นชมกับดอกกระเจียว9ชั้นในช่วงหน้าฝน (สิงหาคม-กันยายน)
ศึกษาต้นยางนาสูงใหญ่ที่เป็นที่ขยายพันธุ์ของผึ้งตามธรรมชาติ
พร้อมกับเรียนรู้วิถีชีวิตชนบทจากชาวบ้านเจ้าของศิลปะวัฒนธรรมนั้นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทำขันคู่ปีเพื่อสักการะพระเจ้าล้านทองที่เป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชน
เยี่ยมชมหัตถกรรมพื้นบ้าน ตำฮูก ทอผ้า โคมไฟพาแลง ร่วมประกอบอาหารพื้นบ้าน
ร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคลปกติสุขเจริญรุ่งเรืองทั้งผู้มาเยือนและเจ้าของบ้าน
การใส่บาตรข้าวเหนียว
รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตคู่กับธรรมชาติอีกด้วย
ข้อควรปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ดีคือการฝึกตนให้เป็นคนอยู่ง่ายรับประทานง่าย
เปิดใจในการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสบายนัก
ที่สำคัญคือควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของหมู่บ้าน
เคารพในสิทธิของเจ้าของพื้นที่และไม่ทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับข้อปฏิบัติของชุมชน
รวมถึงไม่ลบหลู่ความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่น
โดย Wikalenda.com
อยากไปเที่ยวจัง >O<
ตอบลบอยากไปจัง
ตอบลบอยากไปจังเลยยยยย ><
ตอบลบ